ประวัติ จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี
ประวัติ จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี (Jorginho) คือหนึ่งในสมาชิกของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2022/23 ซึ่งเขาถูก เชลซี ส่งต่อมาให้ เนื่องจากขุมกำลังที่ซื้อเข้ามาในช่วงเดือนมกราคม มากเกินกว่าจะมีที่ยืนสำหรับเขา ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่า นี่อาจจะเป็นเส้นทางของเขาที่ถูกขีดเขียนเอาไว้ ว่าจะมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ “ปืนใหญ่” เพราะเขายังไม่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสักหน ในการรับใช้ “สิงห์บลู” 5 ปี

ชื่อเต็ม : จอร์จ หลุยส์ เฟรลโล ฟินโญ่ (Jorge Luiz Frello Filho)
วันเกิด : 20 ธันวาคม 2534
สถานที่ : จังหวัด อิมบิทุบะ, บราซิล
สัญชาติ : บราซิลเลี่ยน / อิตาเลี่ยน
ส่วนสูง : 1.78 เมตร
สโมสรปัจจุบัน : อาร์เซน่อล
ตำแหน่งที่เล่น : กองกลาง
สวมเสื้อเบอร์ : 20
ลงเล่น : 8
ยิงประตู : 0

ค.ศ. 2010 – 2014 เฮลลาส เวโรน่า ลงเล่น 89 นัด ยิง 11 ประตู
ค.ศ. 2014-2018 นาโปลี ลงเล่น 133 นัด ยิง 2 ประตู
ค.ศ. 2018 – 2023 เชลซี ลงเล่น 143 นัด ยิง 21 ประตู
ค.ศ. 2023 – ปัจจุบัน อาร์เซน่อล ลงเล่น 8 นัด ยิง 0 ประตู
เส้นทางชีวิตการค้าแข้งของ ประวัติ จอร์จินโญ่
จอร์จินโญ่ กับ นาโปลี 2014-2018

ฤดูกาล 2013/14 จอร์จินโญ่ ย้ายจาก เวโรน่า มาอยู่กับ นาโปลี ช่วงเดือนมกราคม เปิดตัวนัดแรก วันที่ 25 มกราคม 2014 เป็นสำรอง 34 นาที ในเกมลีกที่เสมอ เวโรน่า 1-1 จากนั้นวันที่ 29 มกราคม เป็นตัวจริงนัดแรก ในเกมโคปปา อิตาเลีย ที่ชนะ ลาซิโอ้ 1-0 พร้อมกับมีส่วนร่วมในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่เอาชนะ ฟิออเรนติน่า 3-1 คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย ตั้งแต่ปีแรกที่มาอยู่กับทีม อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพียงความสำเร็จเดียวของเขากับ นาโปลี เพราะใน 4 ฤดูกาลต่อมา เขาไม่เคยคว้าแชมป์ได้อีกเลย ถ้าไม่นับถ้วย อิตาเลีย ซุปเปอร์คัพ 2014 ซึ่งเป็นเพียงถ้วยน้ำจิ้มเท่านั้น โดย จอร์จินโญ่ ลงสนามให้นาโปลีไปทั้งหมด 160 นัด ยิงไป 6 ประตู
จอร์จินโญ่ กับ เชลซี 2018-2023

กรกฎาคม 2018 เชลซี จ่ายเงิน 57 ล้านปอนด์ ดึงตัว จอร์จินโญ่ มาเล่นที่อังกฤษ พร้อมกับออกสตาร์ทในฤดูกาล 2018/19 ด้วยการเป็นตัวหลักของทีม เปิดตัววันที่ 5 สิงหาคม 2018 อยู่ในสนาม 90 นาที ในเกมชาริตี้ ชิลด์ ที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2
11 สิงหาคม 2018 จอร์จินโญ่ เปิดตัวในพรีเมียร์ลีกนัดแรก เขามี 1 สกอร์ ช่วยให้ทีมเอาชนะ ฮัดเดอร์ฟิลด์ 3-0 ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว เขาพลาดการลงเล่นพรีเมียร์ลีก เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น แล้วเป็นตัวจริง 37 นัด พาทีมจบอันดับ 3 และรองแชมป์ คาราบาว คัพ (แพ้จุดโทษ แมนฯ ซิตี้ 3-4)
แต่ยังมีแชมป์ฟุตบอล ยูโรป้าลีก ติดไม้ติดมือ จากการเอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ซึ่งเกมดังกล่าว จอร์จินโญ่ อยู่ในสนาม 90 นาที เป็นการเปิดตัวด้วยแชมป์บอลถ้วยอีกครั้ง เฉกเช่นการเปิดตัวกับ นาโปลี
จากนั้น จอร์จินโญ่ กลายเป็นตัวหลักในแดนกลางของ เชลซี เรื่อยมา แม้จะพลาดแชมป์ เอฟเอ คัพ 3 หน กับ พลาดแชมป์ คาราบาว คัพ อีก 2 หน แต่ก็มาแก้ตัวแบบทบต้นทบดอก ด้วยการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก 2020/21 ด้วยการเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0
จอร์จินโญ่ กับ อาร์เซน่อล 2023

ฤดูกาล 2022/23 จอร์จินโญ่ ยังเป็นตัวหลักของ เชลซี แถมบางนัด ยังได้ลงเล่นในฐานะกัปตันทีม แต่จากการดึงตัว เอ็นโซ่ แฟร์นานเดซ มาร่วมทีม ทำให้เขาตกเป็นตัวเลือกลง แล้วถูกส่งตัวให้กับ อาร์เซน่อล ในช่วงเดือนมกราคม ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์
4 กุมภาพันธ์ 2023 จอร์จินโญ่ เปิดตัวกับปืนใหญ่เกมแรก ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 22 เขามีเวลา 34 นาที ในเกมแพ้ เอฟเวอร์ตั้น 0-1 จากนั้นได้รับโอกาสเรื่อยมา จนถึงนัดล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เมษายน ในพรีเมียร์ลีก นัดที่ 29 เขาอยู่ในสนาม 30 นาที ในเกมชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1

จอร์จินโญ่ เริ่มเข้าสู่ทีมชาติชุดใหญ่ เมื่อปี 2016 ช่วงที่ค้าแข้งอยู่กับ นาโปลี ตอนนั้นเค้าโชว์ฟอร์มในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยม ได้ทั้งเกมรับและ เกมรุก เป็นหัวใจหลักแดนกลาง ในการเคลื่อนบอลไปยังด้านหน้า จนทำให้ ทัพอัซซูรี่ ขาดเค้าไปไม่ได้ในตำแหน่งแดนกลาง และ จอร์จินโญ่ ก็รับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนาน จนถึงปัจจุบัน และจุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของ จอร์จินโญ่ คือการ สังหารจุดโทษ เมื่อใดที่ทีมได้โอกาสจากลูกจุดโทษ เขาจะกลายเป็น คนแรก ที่ได้ยิงเสมอ และมีเปอร์เซ็ตสูงที่จะยิงเข้า
ระดับสโมสร
- UEFA BEST PLAYER IN EUROPE
- BEST MIDFIELDER OF COMPETITIONS