TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ลูกหนัง

TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล

TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล การแข่งขันฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวัฒนธรรมทั่วโลก และมีหลายๆ โมเมนต์ที่ได้สร้างชื่อเสียงและทำให้คนทั่วโลกทรงจำ ทั้งการแข่งขันที่ตื่นเต้น, การบุกเบิกทางเทคนิค, หรือแม้แต่การกระทำที่ท้าทายความยุติธรรม โมเมนต์เหล่านี้ไม่ได้สร้างประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่เรารู้จักวันนี้เท่านั้น แต่ยังช่วยผลักดันกีฬาที่เรารักนี้ไปข้างหน้า

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปท่องเที่ยวในโลกของฟุตบอล ผ่านทางสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็น 10 อันดับโมเมนต์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น “Hand of God” ของ ดิเอโก มาราโดนา ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1986, “Cruyff Turn” ที่แสดงขึ้นโดย Johann Cruyff ในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1974, หรือ “The Headbutt” ที่สร้างความตกใจในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2006 ที่ซินิเดน ซีดาน ทำ

อันดับที่ 10 The Headbutt (1986)
TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล

“The Headbutt” เป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจในฟุตบอลโลกที่เกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2006 ระหว่างทีมชาติฝรั่งเศสและอิตาลี ที่เกิดขึ้นในครึ่งหลังที่สองและการต่อศึกยาวนานที่สนามสเตียดด์ด์ ฟ์ฟ์ ที่เบอร์ลิน, เยอรมนี เมื่อเวลาผ่านไป 110 นาที และเกมส์ยังคงเสมอ 1-1, ซินิเดน ซีดาน หัวหน้าทีมของฝรั่งเศส ได้ทำการทำความเจ็บปวดแก่มาร์โค เม็ตซ่าเซียน, นักฟุตบอลของอิตาลี โดยใช้หัวของเขา ซีดานตัดสินใจใช้หัวของเขายับยั้งอกของมาเตราสซี่ ซึ่งทำให้มาเตราสซี่ ร่วงกลางสนามทันที

ผู้ตัดสินชักใบแดงให้ซีดานทันที ทำให้ซีดานต้องออกจากสนาม ซีดานเป็นหัวหน้าทีมที่ทำทุกอย่างเพื่อทีมของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้ และการที่เขาออกจากสนามในรูปแบบนี้ทำให้ความหวังของทีมฝรั่งเศสเกี่ยวกับการชนะเลิศลดลง การแข่งขันจบลงด้วยการเสมอ 1-1 และอิตาลีชนะในการยิงลูกโทษ 5-3 ซีดานไม่ได้มีส่วนร่วมในการยิงลูกโทษเนื่องจากถูกไล่ออกจากสนาม

ทุกคนที่ดูเกมส์นั้นยังคงจำเหตุการณ์นี้ได้ และมันถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพที่หลากหลายที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจในเกมส์นั้นเท่านั้น แต่ยังสร้างสถานการณ์ที่ซีดานต้องจบอาชีพการเล่นฟุตบอลของเขาอย่างที่ไม่มีความสุข.

อันดับที่ 9 Battle of Santiago (1962)
TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล

“Battle of Santiago” เป็นชื่อที่เรียกแมตช์การแข่งขันฟุตบอลฟีฟ่าโลกรอบคัดเลือกในปี 1962 ระหว่างประเทศชิลีและประเทศอิตาลี ที่สนาม Estadio Nacional ในซันติยาโก, ชิลี เนื่องจากการทะเลาะวิวาทและความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเกมส์ที่สนามการแข่งขัน การแข่งขันเริ่มในวันที่ 2 มิถุนายน 1962 และชิลีชนะอิตาลี 2-0 แต่คะแนนไม่ใช่เรื่องที่คนจำได้มากที่สุดจากเกมนี้ อย่างไรก็ตามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเกมส์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่คนจำได้มากที่สุด

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เริ่มการแข่งขัน สัญญาณของความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้น เมื่อนักเตะอิตาลีชื่อ จอร์โจ แฟร์รินี่ ถูกไล่ออกจากสนามหลังจากที่เขาทำร้ายนักเตะชิลีชื่อ โอโนริโน แลนด้า และ แฟร์รินี่ ปฏิเสธที่จะออกจากสนาม จนต้องใช้ตำรวจท้องถิ่นมาช่วยลากเขาออก และเหตุการณ์ต่อๆมาในเกมส์นี้ก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงขึ้นมาก ทั้งเกมนี้มีการแจกใบแดงอย่างเป็นทางการ 2 ครั้ง ความรุนแรงในเกมส์นี้ทำให้คนคิดถึงมันว่าเป็น “Battle of Santiago” มากกว่าเป็นเกมส์ฟุตบอล.

อันดับที่ 8 แมตช์ซุปเปอร์คลาสิโก (2010)
10 อันดับโมเมนต์ฟุตบอล

ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2010, บาร์เซโลน่า ภูมิใจอย่างยิ่งในการยิงลูกเข้าประตู เรอัล มาดริด 5-0 ในเกมส์ “El Clásico” ที่ “Camp Nou” ที่เป็นปรากฏการณ์ที่จำทำให้คนดูทึ่งมากที่สุดในฟุตบอลสเปนในศตวรรษที่ 21 นักฟุตบอลของ “บาร์ซ่า” ที่ยิงลูกเข้าประตูรวมอยู่ทั้ง ซาบี, เปเดโร, ดาวิด วิยา, และ จอร์ดิ อัลบา รวมถึง ลีโอเนล เมสซี่ ที่เป็นแกนหลักของทีม ที่สร้างเกมส์และเก็บลูกเสมอ แม้จะไม่ได้ยิงลูกเข้าประตูในการแข่งขันนี้

แมตช์นี้เป็นตัวอย่างเด่นของทัศนคติการเล่นฟุตบอลที่เรียกว่า “Tiki-Taka” ที่จัดการโดย เป็ป กวาดิโอล่า ที่เป็นโค้ชของ “บาร์ซ่า” ในขณะนั้น และถือว่าเป็นปรากฏการณ์ที่สำคัญในการแข่งขันระหว่างสองสโมสรที่มีชื่อเสียงและการแข่งขันมากที่สุดในโลก การที่ “บาร์ซ่า” ชนะ “รีอัล มาดริด” ด้วยคะแนน 5-0 ในเกมส์นี้ได้ทำให้ความขัดแย้งและการแข่งขันระหว่างสองทีมนี้นั้นดูเข้มข้นและตื่นเต้นมากขึ้น

อันดับที่ 7 จุดกำเนิดของฟุตบอลหญิง (1991)
10 อันดับโมเมนต์ฟุตบอล

การแข่งขันฟุตบอลหญิงระดับโลกเริ่มต้นขึ้นในปี 1991 ซึ่งเป็นการระเบิดของฟุตบอลหญิงในฐานะกีฬาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทัวร์นาเมนต์นี้ เรียกว่า “การแข่งขันฟุตบอลหญิง FIFA” และเป็นที่จัดในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นการรวบรวมของประเทศที่สนับสนุนฟุตบอลหญิงที่สุด

ในทัวร์นาเมนต์แรก มีทีมจาก 12 ประเทศที่เข้าร่วม และทีมชาติสหรัฐฯ ชนะในแมตช์ชิงชนะเลิศต่อทีมชาตินอร์เวย์ ในการแข่งขันนั้น หลายการแข่งขันมีผู้ชมเกิน 65,000 คน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมของฟุตบอลหญิงทั่วโลก

การแข่งขันนี้เปิดเส้นทางให้กับการรับรู้และการสนับสนุนที่เพิ่มขึ้นต่อฟุตบอลหญิง และได้ทำให้นักกีฬาหญิงทั่วโลกได้รับการรับรู้และสนับสนุนมากขึ้น ต่อมา การแข่งขันฟุตบอลหญิงโลกมีการขยายเพิ่มเติมจาก 12 ทีมเป็น 24 ทีม และสถานที่จัดการแข่งขันก็ได้มีการสลับไปมาในทวีปต่างๆ ทั่วโลก

อันดับที่ 6 กฎ 5 วินาทีในฟุตบอล (1966)
10 อันดับโมเมนต์ฟุตบอล

กฎ 5 วินาทีในฟุตบอลนี่อาจมีความสับสนกับกฎในบาสเกตบอล ที่ทำกฎการจำกัดเวลาในการเล่นบอลหลังการรับบอลหรือขับบอลเข้าหาตัวตนเองได้ 5 วินาที แต่ในความเป็นจริง ในฟุตบอลไม่มีกฎข้อนี้

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันฟุตบอลโลก 1966 มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงกฎหมายในฟุตบอล เช่น การนำเข้าการใช้การ์ดสีเหลืองและสีแดงเพื่อแสดงการทำผิดกฎ ที่ได้รับการรับรองโดย FIFA ในปี 1970 หลังจากการแนะนำโดย บริษัท British Football Association ที่ต้องการวิธีที่จะช่วยให้ผู้ดูแลการแข่งขันมีการสื่อสารที่ชัดเจนกับนักเตะและแฟนคลับ

นอกจากนี้ ปี 1966 ยังเป็นปีที่ทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์โลกในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก โดยเกมรอบชิงชนะเลิศระหว่างอังกฤษและเยอรมนีถือว่าเป็นหนึ่งในความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับบอลที่ถูกจำกัดโดยสื่อสารลูกบอลที่มีข้อบกพร่อง

อันดับที่ 5 The Miracle of Bern (1954) TOP 10 โมเมนต์ฟุตบอล

10 อันดับโมเมนต์ฟุตบอล

“The Miracle of Bern” หรือ “ความประหลาดใจแห่งเบิร์น” เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 1954 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นการคว้าแชมป์โลกครั้งแรกของทีมชาติเยอรมนี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นการย้อนกลับสถานการณ์ที่น่าประหลาดใจจริงๆ ทีมชาติเยอรมนีต้องการแข่งขันกับทีมฮังการีที่ไม่เคยแพ้ในระยะเวลา 32 เกมต่อเนื่อง และยังเคยเอาชนะทีมเยอรมนีไปแล้วในการแข่งขันครั้งก่อนอย่างง่ายดายด้วยสกอร์ 8-3 สำหรับฮังการี ทีมนี้มีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมมากมาย มีนักเตะสุดยอดอย่าง Ferenc Puskas และถูกพิจารณาว่าเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้

แต่ในวันที่ 4 กรกฎาคม 1954 ที่สนาม Wankdorf ในเบิร์น สวิซเซอร์แลนด์ ทีมชาติเยอรมนีได้เอาชนะฮังการีด้วยสกอร์ 3-2 ในเกมที่ถูกจัดว่าเป็นความประหลาดใจใหญ่ ความสำเร็จนี้ถูกเรียกว่า “ความประหลาดใจแห่งเบิร์น” และถือว่าเป็นความรุ่งโรจน์ของฟุตบอลเยอรมนี

ความรุ่งโรจน์นี้ไม่ได้มีผลต่อแค่ฟุตบอลเยอรมนี แต่ยังมีผลต่อสังคมเยอรมนีทั้งประเทศด้วย ซึ่งหวังว่าจะใช้สปอร์ตในการฟื้นฟูจากสงครามโลกครั้งที่สองที่ทำให้ประเทศเดินทางในทางที่ไม่แน่นอน ด้วยความสำเร็จนี้ เยอรมนีได้เริ่มสร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจในประชาชนของประเทศ เพราะฉะนั้น “ความประหลาดใจแห่งเบิร์น” มีความสำคัญไม่เพียงแค่ในโลกของฟุตบอล แต่ยังมีผลต่อสังคมของเยอรมนีด้วย

อันดับที่ 4 การถ่ายทอดสดของฟุตบอลในโทรทัศน์เป็นครั้งแรก (1937)
10 อันดับเรื่องราวฟุตบอล

การถ่ายทอดสดของฟุตบอลในโทรทัศน์เป็นครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1937 ณ ประเทศอังกฤษ โดยสถานีโทรทัศน์ BBC ที่เข้าสู่ยุคใหม่ของการสื่อสารและการสร้างบันเทิง นั้นคือ การถ่ายทอดภาพอย่างสดใสมากโดยตรงจากสนามกีฬาไปยังหน้าจอโทรทัศน์ของคนทั่วประเทศอังกฤษ

การถ่ายทอดสดนั้นเป็นการแข่งขันระหว่างทีมเจ้าบ้าน อาร์เซน่อล ปะทะทีมเยือน อาร์เซน่อล รีเซิร์ฟ ที่สนามฟุตบอลฮิไบรี่ในวันที่ 16 กันยายน ปี 1937 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดในช่วงครึ่งแรกและครึ่งหลังของเกมส์

แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมในขณะนั้นที่ยังไม่เหมาะสม เทคโนโลยีที่ยังไม่พร้อม และสภาวะอากาศที่ทำให้สัญญาณถ่ายทอดสดถูกขัดขวาง การถ่ายทอดสดในครั้งนี้สามารถถ่ายทอดได้เพียง 15 นาทีเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การถ่ายทอดสดนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของฟุตบอลที่ถูกถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ ทำให้ผู้ชมทั่วโลกสามารถร่วมสนุกสนานกับเกมส์ที่รักแบบเหมือนกับว่านั่งอยู่ที่สนามกีฬาจริงๆ

อันดับที่ 3 การแข่งขันฟุตบอลโลกี่บราซิลเป็นเจ้าภาพ (1950)
10 อันดับเรื่องราวฟุตบอล

การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1950 ที่บราซิลเป็นที่จัดการแข่งขัน มีความทรงจำที่ยากลืมสำหรับชาวบราซิล ซึ่งมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 16 กรกฎาคม 1950 ระหว่างทีมชาติบราซิลและอุรุกวัยที่สนามมาราคานา รีโอเดจาเนโร

ในปี 1950 การแข่งขันฟุตบอลโลกเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันจากการแข่งขันแบบคัดออกเป็นการแข่งขันแบบรอบสุดท้ายเป็นกลุ่ม และทีมที่มีคะแนนสูงสุดในกลุ่มจะได้เป็นแชมป์ ในรอบสุดท้ายทีมบราซิลเหลืออีกเกมส์เดียวที่จะต้องลงสนามแข่งขันกับทีมอุรุกวัย ทีมบราซิลต้องการเพียงแค่ความเสมอเพื่อได้รับแชมป์โลก

สนามมาราคานารุนแรงด้วยผู้ชมที่กว่า 200,000 คนและทุกคนคาดว่าทีมบราซิลจะชนะแน่นอน แต่ภาพรวมที่ระลึกถึงคือการพ่ายแพ้ของทีมบราซิลอย่างไม่คาดคิด ทีมอุรุกวัยชนะบราซิลด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้บราซิลไม่สามารถชนะแชมป์ฟุตบอลโลกในครั้งแรกที่เป็นเจ้าภาพการแข่งขันได้

การแพ้ในครั้งนี้ถูกเรียกว่า “Maracanazo” ซึ่งเป็นคำที่แสดงถึงความผิดหวังและความท้อแท้ที่ทำให้ชาวบราซิลรู้สึกอับอายมากมาย และยังเป็นแผลเป็นที่ยากลืมที่ยังคงอยู่ในใจของชาวบราซิลถึงปัจจุบัน

อันดับที่ 2 Cruyff Turn (1974)
10 อันดับเรื่องราวฟุตบอล

“Cruyff Turn” เป็นการเล่นที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของจอห์น ครุยฟ์ (Johan Cruyff) ซึ่งเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอดีต ครุยฟ์ คือ เฟื่องฟูแห่งฟุตบอลเนเธอร์แลนด์และบาร์เซโลน่า และได้ชื่อเสียงในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1974 ที่เยอรมนีตะวันตก

ในแมตช์ของรอบสุดท้ายของกลุ่มระหว่างเนเธอร์แลนด์และสวีเดน ครุยฟ์ได้เปิดเผยวิธีการเล่นที่ถูกเรียกว่า “Cruyff Turn” โดยครุยฟ์ รับบอลแล้วหันหลังสู่ผู้รักษาประตู ดูเหมือนจะส่งบอลหรือทำกลยุทธ์ที่เดินทางไปทางขวา แต่ในทันทีที่รัฐก์ฟ์ได้แตะบอลด้วยขาซ้ายของเขาทำให้บอลแตะด้านในของขาขวาและจากนั้นก็รีบหันตัวเข้าไปด้านขวาของบอลทำให้ผู้เล่นรักษาประตูสับสนและครุยฟ์ก็จะสามารถดึงบอลไปได้ทางด้านอื่น ๆ

การเล่นนี้ถูกจดจำเป็นท่าเซ็นเจอร์ของครุยฟ์และถูกนำไปใช้มากขึ้นในฟุตบอลโลกและเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเล่นของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ ๆ มากมาย

อันดับที่ 1 Hand of God (1986)
10 อันดับเรื่องราวฟุตบอล

“Hand of God” คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 1986 ระหว่างอาร์เจนตินาและอังกฤษ ที่เม็กซิโกซิตี้, โมเมนต์นี้เกิดขึ้นในครึ่งแรกของเกม, ดิเอโก มาราโดนา ผู้เล่นจากอาร์เจนตินาได้ลุยเข้าไปที่ประตูของอังกฤษ และก่อนที่กอล์คีปเปอร์ของอังกฤษจะสัมผัสบอล, มาราโดนาได้แย่งบอลด้วยมือขวาของเขาและส่งลูกเข้าประตู.

ทีมอังกฤษเรียกร้องว่ามาราโดนาได้ยุ่งมือเข้ามาแตะบอล ซึ่งฝ่าฝืนกฎของเกม, แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เห็นเหตุการณ์นั้นและจึงให้ประตูนั้นสำเร็จ. หลังจากเกม, มาราโดนา ได้กล่าวว่าประตูที่เขายิงเข้าไปนั้นได้รับการช่วยเหลือจาก “มือของเทพ” ซึ่งกลายเป็นชื่อที่เรียกเหตุการณ์นี้ในที่สุด.

เหตุการณ์นี้ถูกนำไปอ้างอิงอย่างกว้างขวางในวัฒนธรรมฟุตบอล และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มาราโดนามีชื่อเสียงและรับความจดจำในฐานะหนึ่งในนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์.

ติดตาม :: เว็บผลบอล

ติดตาม top10football เพิ่มเติมได้ที่  :: 10อันดับนักฟุตบอล